ก.ค.ศ.เห็นชอบให้ปรับปฏิทินการสอบครูผู้ช่วย โดยให้ทุกอย่างแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 60
นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการชุม ก.ค.ศ. เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 60 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ (ร่าง)หลักเกณฑ์และวิธีสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้เป็นไปตามมาตรฐานตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยไม่มีการแบ่งกลุ่ม หลักสูตรการคัดเลือกออกเป็น 3 ภาค คือ ภาค ก สอบข้อเขียน และประเมินประวัติ ประสบการณ์บริหารและผลงาน ภาค ข ประเมินศักยภาพ และภาค ค ประเมินวิสัยทัศน์และแนวทางการพัฒนาเขตพื้นที่การศึกษาและสัมภาษณ์สามารถยื่นใบสมัครเข้ารับการคัดเลือกเพียงแห่งเดียว การรายงานข้อมูลและเอกสารต้องครบถ้วน หากรายงานไม่ตรงจะไม่รับเอกสารเพิ่มเติมภายหลังบรรจุแต่งตั้งตามจำนวนตำแหน่งว่างโดยไม่มีการขึ้นบัญชีซึ่งผู้ที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งต้องได้รับการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษาเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยให้มีการประเมิน 2 ครั้ง ทุก 6 เดือน หากผลการประเมินรวมทั้ง 2 ครั้งไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จะดำเนินการตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารับเงินเดือนในอัตราทดแทน พ.ศ.2551ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะใช้กับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหนงรองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาด้วยประชุมยังได้เห็นชอบให้ปรับปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยครูผู้ช่วยใหม่ให้เร็วขึ้น 10 วัน โดยจะให้แล้วเสร็จประมาณปลายเดือนเมษายนนี้ เพื่อให้โรงเรียนเอกชนมีเวลาเตรียมตัวหาคนใหม่มาสอนแทนคนที่สอบบรรจุได้และระเบียบยังเปิดกว้างให้ผู้เชี่ยวชาญบางสาขาตามที่คุรุสภากำหนด ผู้ที่อยู่ในสาขาวิชาเฉพาะที่ขาดแคลน มีความต้องการพิเศษสามารถสมัครสอบได้โดยคุรุสภาจะออกใบอนุญาตการสอนให้ก่อนนอกจากนี้ที่ประชุมยังอนุมัติกำหนดให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานศึกษาธิการภาคเป็นหน่วยงานการศึกษา เพื่อให้มีกฎหมายรองรับในการทำงานด้วยอิชยา/สรุป,ธเนศ,ภาพ กลุ่มสารนิเทศ สอ.สป.ศธ. ขอบคุณ เว็บไซต์ครูบ้านนอกดอทคอม 1273
นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการชุม ก.ค.ศ. เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 60 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ (ร่าง)หลักเกณฑ์และวิธีสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้เป็นไปตามมาตรฐานตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยไม่มีการแบ่งกลุ่ม
หลักสูตรการคัดเลือกออกเป็น 3 ภาค คือ ภาค ก สอบข้อเขียน และประเมินประวัติ ประสบการณ์บริหารและผลงาน ภาค ข ประเมินศักยภาพ และภาค ค ประเมินวิสัยทัศน์และแนวทางการพัฒนาเขตพื้นที่การศึกษาและสัมภาษณ์สามารถยื่นใบสมัครเข้ารับการคัดเลือกเพียงแห่งเดียว การรายงานข้อมูลและเอกสารต้องครบถ้วน หากรายงานไม่ตรงจะไม่รับเอกสารเพิ่มเติมภายหลัง
บรรจุแต่งตั้งตามจำนวนตำแหน่งว่างโดยไม่มีการขึ้นบัญชีซึ่งผู้ที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งต้องได้รับการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษาเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยให้มีการประเมิน 2 ครั้ง ทุก 6 เดือน หากผลการประเมินรวมทั้ง 2 ครั้งไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จะดำเนินการตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารับเงินเดือนในอัตราทดแทน พ.ศ.2551
ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะใช้กับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหนงรองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาด้วย
ประชุมยังได้เห็นชอบให้ปรับปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยครูผู้ช่วยใหม่ให้เร็วขึ้น 10 วัน โดยจะให้แล้วเสร็จประมาณปลายเดือนเมษายนนี้ เพื่อให้โรงเรียนเอกชนมีเวลาเตรียมตัวหาคนใหม่มาสอนแทนคนที่สอบบรรจุได้และระเบียบยังเปิดกว้างให้ผู้เชี่ยวชาญบางสาขาตามที่คุรุสภากำหนด ผู้ที่อยู่ในสาขาวิชาเฉพาะที่ขาดแคลน มีความต้องการพิเศษสามารถสมัครสอบได้โดยคุรุสภาจะออกใบอนุญาตการสอนให้ก่อน
นอกจากนี้ที่ประชุมยังอนุมัติกำหนดให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักงานศึกษาธิการภาคเป็นหน่วยงานการศึกษา เพื่อให้มีกฎหมายรองรับในการทำงานด้วย
อิชยา/สรุป,ธเนศ,ภาพ
กลุ่มสารนิเทศ สอ.สป.ศธ.
ขอบคุณ เว็บไซต์ครูบ้านนอกดอทคอม
1273
ปฏิกิริยาของคุณคืออะไร?