กรมบัญชีกลางจ่ายตรง ‘เงินเดือน-ค่าจ้าง’ บุคลากร สพฐ.กว่า 4.2 แสนราย
เมื่อวันที่ 18 มกราคม น.ส.อรนุช ไวนุสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางพร้อมจ่ายเงินเดือนและค่าจ้างประจำ จากกรมบัญชีกลางเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารให้แก่ข้าราชการ และลูกจ้างประจำของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยเริ่มเดือนมกราคมเป็นเดือนแรก 420,125 ราย รวมกว่า 15,619 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการจ่ายตรงเงินเดือน และค่าจ้างประจำ ทำมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2546 ปัจจุบันมีส่วนราชการเข้าร่วมแล้ว 224 ส่วนราชการ โดย สพฐ.เป็นหน่วยงานสุดท้ายที่เข้าร่วมโครงการนี้ นอกจากนี้ ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 50 ให้ส่วนราชการผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 หักภาษีเงินได้ทุกคราวที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน (เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส เบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ) ดังนั้น ในกรณีนี้จึงหักภาษีไว้เช่นเดียวกับส่วนราชการอื่นที่เข้าร่วมโครงการ“โครงการจ่ายตรงเงินเดือนและค่าจ้างประจำในส่วนของ สพฐ.จะทำให้บุคลากรของ สพฐ.ได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และเงินวิทยฐานะผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตรงตามระยะเวลาที่กรมบัญชีกลางกำหนดทุกเดือน ช่วยลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ลดค่าใช้จ่ายในการจัดทำเอกสารขอเบิก และการโอนเงิน ทำให้มีฐานข้อมูลบุคลากรภาครัฐเต็มรูปแบบเพื่อใช้ในการบริหารบุคลากร และงบฯ” น.ส.อรนุชกล่าวขอบคุณ เว็บไซต์ครูบ้านนอกดอทคอม 1058
เมื่อวันที่ 18 มกราคม น.ส.อรนุช ไวนุสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางพร้อมจ่ายเงินเดือนและค่าจ้างประจำ จากกรมบัญชีกลางเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารให้แก่ข้าราชการ และลูกจ้างประจำของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยเริ่มเดือนมกราคมเป็นเดือนแรก 420,125 ราย รวมกว่า 15,619 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการจ่ายตรงเงินเดือน และค่าจ้างประจำ ทำมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2546 ปัจจุบันมีส่วนราชการเข้าร่วมแล้ว 224 ส่วนราชการ โดย สพฐ.เป็นหน่วยงานสุดท้ายที่เข้าร่วมโครงการนี้ นอกจากนี้ ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 50 ให้ส่วนราชการผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 หักภาษีเงินได้ทุกคราวที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน (เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส เบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ) ดังนั้น ในกรณีนี้จึงหักภาษีไว้เช่นเดียวกับส่วนราชการอื่นที่เข้าร่วมโครงการ
“โครงการจ่ายตรงเงินเดือนและค่าจ้างประจำในส่วนของ สพฐ.จะทำให้บุคลากรของ สพฐ.ได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และเงินวิทยฐานะผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตรงตามระยะเวลาที่กรมบัญชีกลางกำหนดทุกเดือน ช่วยลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ลดค่าใช้จ่ายในการจัดทำเอกสารขอเบิก และการโอนเงิน ทำให้มีฐานข้อมูลบุคลากรภาครัฐเต็มรูปแบบเพื่อใช้ในการบริหารบุคลากร และงบฯ” น.ส.อรนุชกล่าว
ขอบคุณ เว็บไซต์ครูบ้านนอกดอทคอม
1058
ปฏิกิริยาของคุณคืออะไร?