ผู้ปกครองร้อง! ครูตีเด็กมือบวม ไม่กล้าไปโรงเรียน
(21 เมย. 65) เรื่องราวของครูที่ตีเด็กจนเด็กไม่กล้าไปโรงเรียนก็เกิดขึ้นอีกโดยที่จังหวัดพิจิตร ผู้ปกครองรายหนึ่งตัดสินใจร้องสื่อหลังจากที่หลานชายวัย 5 ขวบ ซึ่งกำลังเรียนชั้นอนุบาล 2 ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกครูใช้ไม้บรรทัดฟุตเหล็กตีจนมือแดงบวมและตีเด็กบ่อยมากจนเด็กเกิดความกลัวไม่ยอมไปโรงเรียนอีกเลย แค่ได้ยินคำว่าครูเด็กก็จะร้องไห้ แม้แต่พาขับรถผ่านหน้าโรงเรียนเด็กก็ไม่ยอมไปโดยนางบุญช่วย พลอยงาม อายุ 52 ปี อยู่ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นผู้ปกครองของน้องแชมป์ (นามสมมุติ) อายุ 5 ขวบ เปิดเผยว่า หลานตนเองได้เข้าเรียนในระดับชั้นอนุบาลที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง โดยเรียนในระดับชั้นอนุบาล 2 โดยเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากเลิกเรียนปกติหลานต้องเรียนพิเศษที่โรงเรียนต่อจากเวลาปกติ โดยต้องเรียนพิเศษต่อตั้งแต่เวลา 15.30-16.30 น. ของทุกวัน โดยเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาในช่วงเทอมที่ 2 หลังจากที่พ่อไปรับน้องแชมป์กลับจากโรงเรียน ก็มีอาการผิดปกติร้องไห้ พร้อมบ่นเจ็บมือ เมื่อนำมือมาดูพบว่าแดงบวม จึงพาไปหาหมอพบว่ามีรอยแดงบวม แต่ไม่มีบาดแผลและแพทย์ได้ให้ยามารับประทานที่บ้านและถามน้องแชมป์ว่าทำไมมือถึงแดงบวมโดยน้องแชมป์บอกว่าโดนครูใช้ไม้บรรทัดเหล็กตีว่าเขียนหนังสือช้าหลังจากนั้นตนเองพยายามที่จะถามผู้ปกครองรายอื่นที่บุตรหลานเรียนอยู่ชั้นเดียวกันก็ได้รับคำตอบว่าน้องแชมป์จะโดนตีบ่อยมากเนื่องจากเขียนหนังสือช้า แต่ครั้งนี้รุนแรงสุดเพราะใช้ฟุตเหล็กตีถึงขั้นมือบวมแดง แม้การถูกตีระหว่างครูกับนักเรียนจะไม่ใช่เรื่องผิดปกติและก็ไม่ได้มีบาดแผล แต่ปัญหาคือหลังจากถูกตีเด็กที่เคยร่าเริงกลับกลายเป็นเด็กซึมเงียบไม่พูดคุยและกลายเป็นเด็กก้าวร้าวและปัญหาใหญ่คือไม่ยอมไปโรงเรียนอีกเลย ได้ยินคำว่าครูก็จะร้องไห้และเมื่อลองพาขี่รถผ่านหน้าโรงเรียนมีอาการหวาดกลัวขึ้นมาทันทีโดยตอนนี้ตนเองยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้น้องแชมป์ไปเรียนหนังสือได้ แก้ปัญหาด้วยการให้ไปเรียนกับครูอีกรายที่เปิดบ้านสอนแต่ก็ต้องหลอกว่าให้พี่ช่วยสอนและได้เล่นกับเพื่อนๆ และขอให้ครูผู้สอนอย่าใช้สรรพนามตัวเองว่าครูแต่ให้ใช้พี่แทนซึ่งตนเองยังไม่รู้ว่าในอนาคตที่เปิดเทอมใหม่จะทำอย่างไรให้น้องแชมป์ไปเรียนที่โรงเรียนได้โดยตนเองได้พยามเจรจากับโรงเรียนเอกชนเพื่อให้โรงเรียนช่วยดูแลเพราะต้องย้ายและพาน้องแชมป์ไปเรียนที่ใหม่และยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นเรียนในระดับอนุบาลใหม่หรือไม่ รวมถึงต้องเริ่มต้นซื้ออุปกรณ์การเรียนทั้งเสื้อผ้าหนังสือกระเป๋านักเรียนของโรงเรียนใหม่ทั้งหมดเพราะน้องไม่ยอมไปโรงเรียนเก่า ตอนนี้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตรแล้วระยะเวลาผ่านไป 2 เดือน ยังไม่มีอะไรคืบหน้าในขณะที่ พ.ต.อ. อนุพันธ์ สุสม ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตร ปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยบอกเพียงว่าได้ส่งสำนวนคดีเข้าสู่ชั้นอัยการแล้วเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา 6432
(21 เมย. 65) เรื่องราวของครูที่ตีเด็กจนเด็กไม่กล้าไปโรงเรียนก็เกิดขึ้นอีกโดยที่จังหวัดพิจิตร ผู้ปกครองรายหนึ่งตัดสินใจร้องสื่อหลังจากที่หลานชายวัย 5 ขวบ ซึ่งกำลังเรียนชั้นอนุบาล 2 ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกครูใช้ไม้บรรทัดฟุตเหล็กตีจนมือแดงบวมและตีเด็กบ่อยมากจนเด็กเกิดความกลัวไม่ยอมไปโรงเรียนอีกเลย แค่ได้ยินคำว่าครูเด็กก็จะร้องไห้ แม้แต่พาขับรถผ่านหน้าโรงเรียนเด็กก็ไม่ยอมไป
โดยนางบุญช่วย พลอยงาม อายุ 52 ปี อยู่ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นผู้ปกครองของน้องแชมป์ (นามสมมุติ) อายุ 5 ขวบ เปิดเผยว่า หลานตนเองได้เข้าเรียนในระดับชั้นอนุบาลที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง โดยเรียนในระดับชั้นอนุบาล 2 โดยเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากเลิกเรียนปกติหลานต้องเรียนพิเศษที่โรงเรียนต่อจากเวลาปกติ โดยต้องเรียนพิเศษต่อตั้งแต่เวลา 15.30-16.30 น. ของทุกวัน โดยเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาในช่วงเทอมที่ 2 หลังจากที่พ่อไปรับน้องแชมป์กลับจากโรงเรียน ก็มีอาการผิดปกติร้องไห้ พร้อมบ่นเจ็บมือ เมื่อนำมือมาดูพบว่าแดงบวม จึงพาไปหาหมอพบว่ามีรอยแดงบวม แต่ไม่มีบาดแผลและแพทย์ได้ให้ยามารับประทานที่บ้านและถามน้องแชมป์ว่าทำไมมือถึงแดงบวมโดยน้องแชมป์บอกว่าโดนครูใช้ไม้บรรทัดเหล็กตีว่าเขียนหนังสือช้า
หลังจากนั้นตนเองพยายามที่จะถามผู้ปกครองรายอื่นที่บุตรหลานเรียนอยู่ชั้นเดียวกันก็ได้รับคำตอบว่าน้องแชมป์จะโดนตีบ่อยมากเนื่องจากเขียนหนังสือช้า แต่ครั้งนี้รุนแรงสุดเพราะใช้ฟุตเหล็กตีถึงขั้นมือบวมแดง แม้การถูกตีระหว่างครูกับนักเรียนจะไม่ใช่เรื่องผิดปกติและก็ไม่ได้มีบาดแผล แต่ปัญหาคือหลังจากถูกตีเด็กที่เคยร่าเริงกลับกลายเป็นเด็กซึมเงียบไม่พูดคุยและกลายเป็นเด็กก้าวร้าวและปัญหาใหญ่คือไม่ยอมไปโรงเรียนอีกเลย ได้ยินคำว่าครูก็จะร้องไห้และเมื่อลองพาขี่รถผ่านหน้าโรงเรียนมีอาการหวาดกลัวขึ้นมาทันที
โดยตอนนี้ตนเองยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้น้องแชมป์ไปเรียนหนังสือได้ แก้ปัญหาด้วยการให้ไปเรียนกับครูอีกรายที่เปิดบ้านสอนแต่ก็ต้องหลอกว่าให้พี่ช่วยสอนและได้เล่นกับเพื่อนๆ และขอให้ครูผู้สอนอย่าใช้สรรพนามตัวเองว่าครูแต่ให้ใช้พี่แทนซึ่งตนเองยังไม่รู้ว่าในอนาคตที่เปิดเทอมใหม่จะทำอย่างไรให้น้องแชมป์ไปเรียนที่โรงเรียนได้
โดยตนเองได้พยามเจรจากับโรงเรียนเอกชนเพื่อให้โรงเรียนช่วยดูแลเพราะต้องย้ายและพาน้องแชมป์ไปเรียนที่ใหม่และยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นเรียนในระดับอนุบาลใหม่หรือไม่ รวมถึงต้องเริ่มต้นซื้ออุปกรณ์การเรียนทั้งเสื้อผ้าหนังสือกระเป๋านักเรียนของโรงเรียนใหม่ทั้งหมดเพราะน้องไม่ยอมไปโรงเรียนเก่า ตอนนี้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตรแล้วระยะเวลาผ่านไป 2 เดือน ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
ในขณะที่ พ.ต.อ. อนุพันธ์ สุสม ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตร ปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยบอกเพียงว่าได้ส่งสำนวนคดีเข้าสู่ชั้นอัยการแล้วเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา
6432
ปฏิกิริยาของคุณคืออะไร?
