"ลุงตู่"ห่วงการบ้านเด็กเยอะ สั่งหาแนวทางลด/แนะไม่ควรประเมินเพียงข้อสอบชุดเดียว
สั่งหาแนวทางลด/แนะไม่ควรประเมินเพียงข้อสอบชุดเดียว“เลขาฯ สกศ.” เผยนายกฯ ห่วงเด็กการบ้านเยอะ สั่งหาแนวทางลดการบ้าน พร้อมให้ทุกฝ่ายช่วยปฏิรูปการศึกษา ทั้งเรื่องหลักสูตร ให้ผู้เรียนเรียนรู้จากการปฏิบัติ การประเมินผลที่ไม่ใช้ข้อสอบชุดเดียว พัฒนาครูอย่างมีประสิทธิภาพ และดึงศักยภาพหรือพรสวรรค์ของผู้เรียน เน้นย้ำพิเศษเรื่องการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และหลักธรรมาภิบาลให้เกิดตั้งแต่วัยเด็กนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา (เลขาฯ สกศ.) กล่าวว่า ในการประชุมร่วมระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กับเครือข่ายภาคีการศึกษาไทย ที่นำโดยนายสมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) สมาชิก 12 หน่วยงาน และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งนายกฯ ได้มอบให้ทุกฝ่ายร่วมกันปฏิรูปการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูปหลักสูตรการเรียนการสอนให้ผู้เรียนเรียนรู้จากการปฏิบัติ และการประเมินผลที่ไม่ใช่การใช้ข้อสอบเดียวเหมือนกันทั่วประเทศ รวมถึงให้ผู้เรียนเรียนรู้เรื่องราวในพื้นที่ของตัวเอง ตลอดจนการพัฒนาครูอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ช่วยกันแสวงหาแนวทางที่จะทำให้กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ สามารถดึงศักยภาพหรือพรสวรรค์ของผู้เรียนออกมา อีกทั้งยังต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับทักษะการดำรงชีวิตและงานอาชีพต่างๆ อย่างหลากหลาย“นายกฯ ได้แสดงความห่วงใยในการที่มีครูส่วนหนึ่งให้การบ้านผู้เรียนจำนวนมาก และไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการให้การบ้าน โดยได้มอบให้ช่วยกันคิดหาแนวทางลดการบ้าน และตั้งเป้าหมายให้ลดการบ้านลงให้ได้ทันที ทั้งนี้ นายกฯ ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และหลักธรรมาภิบาลให้เกิดกับผู้เรียนตั้งแต่วัยเด็ก” เลขาฯ สกศ.กล่าวก่อนหน้านี้ มีกระแสจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่ผู้ปกครองเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า บางโรงเรียนให้การบ้านลูกเยอะและยากมาก เกินกว่าวัยและความรู้ของเด็กจะทำได้ และคิดว่าการบ้านกลายเป็นเครื่องมือประกวดประชันความรู้ของพ่อแม่ผู้ปกครอง บางคนบอกว่าลูกทำการบ้านเยอะมากไม่เคยออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อน กว่าจะเสร็จก็เย็นมากแล้ว เป็นการยัดเยียดให้เด็ก ทำให้สมองเด็กเบลอได้ เพราะบางครั้งในการเรียนวันหนึ่งๆ เด็กต้องเจอการบ้านจากครูทุกวิชา ทำให้เด็กมีการบ้านเยอะมาก และทำไม่ทันเป็นบ่อเกิด ให้เกิดธุรกิจรับจ้างทำการบ้านในช่วงที่ผ่านมาอย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอแนะว่าการให้การบ้านเด็กควรคำนึงถึงเด็กแต่ละช่วงวัยด้วย เด็กเล็กไม่ควรมีการบ้านที่เน้นหนักวิชาการ หรือมีการบ้านที่มากเกินไป.ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยโพสต์ วันที่ 11 ธันวาคม 2560 3274
สั่งหาแนวทางลด/แนะไม่ควรประเมินเพียงข้อสอบชุดเดียว
“เลขาฯ สกศ.” เผยนายกฯ ห่วงเด็กการบ้านเยอะ สั่งหาแนวทางลดการบ้าน พร้อมให้ทุกฝ่ายช่วยปฏิรูปการศึกษา ทั้งเรื่องหลักสูตร ให้ผู้เรียนเรียนรู้จากการปฏิบัติ การประเมินผลที่ไม่ใช้ข้อสอบชุดเดียว พัฒนาครูอย่างมีประสิทธิภาพ และดึงศักยภาพหรือพรสวรรค์ของผู้เรียน เน้นย้ำพิเศษเรื่องการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และหลักธรรมาภิบาลให้เกิดตั้งแต่วัยเด็ก
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา (เลขาฯ สกศ.) กล่าวว่า ในการประชุมร่วมระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กับเครือข่ายภาคีการศึกษาไทย ที่นำโดยนายสมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) สมาชิก 12 หน่วยงาน และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งนายกฯ ได้มอบให้ทุกฝ่ายร่วมกันปฏิรูปการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูปหลักสูตรการเรียนการสอนให้ผู้เรียนเรียนรู้จากการปฏิบัติ และการประเมินผลที่ไม่ใช่การใช้ข้อสอบเดียวเหมือนกันทั่วประเทศ รวมถึงให้ผู้เรียนเรียนรู้เรื่องราวในพื้นที่ของตัวเอง ตลอดจนการพัฒนาครูอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ช่วยกันแสวงหาแนวทางที่จะทำให้กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ สามารถดึงศักยภาพหรือพรสวรรค์ของผู้เรียนออกมา อีกทั้งยังต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับทักษะการดำรงชีวิตและงานอาชีพต่างๆ อย่างหลากหลาย
“นายกฯ ได้แสดงความห่วงใยในการที่มีครูส่วนหนึ่งให้การบ้านผู้เรียนจำนวนมาก และไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการให้การบ้าน โดยได้มอบให้ช่วยกันคิดหาแนวทางลดการบ้าน และตั้งเป้าหมายให้ลดการบ้านลงให้ได้ทันที ทั้งนี้ นายกฯ ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และหลักธรรมาภิบาลให้เกิดกับผู้เรียนตั้งแต่วัยเด็ก” เลขาฯ สกศ.กล่าว
ก่อนหน้านี้ มีกระแสจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่ผู้ปกครองเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า บางโรงเรียนให้การบ้านลูกเยอะและยากมาก เกินกว่าวัยและความรู้ของเด็กจะทำได้ และคิดว่าการบ้านกลายเป็นเครื่องมือประกวดประชันความรู้ของพ่อแม่ผู้ปกครอง บางคนบอกว่าลูกทำการบ้านเยอะมากไม่เคยออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อน กว่าจะเสร็จก็เย็นมากแล้ว เป็นการยัดเยียดให้เด็ก ทำให้สมองเด็กเบลอได้ เพราะบางครั้งในการเรียนวันหนึ่งๆ เด็กต้องเจอการบ้านจากครูทุกวิชา ทำให้เด็กมีการบ้านเยอะมาก และทำไม่ทันเป็นบ่อเกิด ให้เกิดธุรกิจรับจ้างทำการบ้านในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอแนะว่าการให้การบ้านเด็กควรคำนึงถึงเด็กแต่ละช่วงวัยด้วย เด็กเล็กไม่ควรมีการบ้านที่เน้นหนักวิชาการ หรือมีการบ้านที่มากเกินไป.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยโพสต์ วันที่ 11 ธันวาคม 2560
3274
ปฏิกิริยาของคุณคืออะไร?
