สช.เร่งสำรวจเอกชนจ่อปิดร.ร. ชงครม.เพิ่มเงินช่วยเหลือ 4.17พันล./ปี

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายพะโยม ชิณวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำรวจตัวเลขโรงเรียนเอกชนทั้งโรงเรียนสามัญศึกษาและโรงเรียนนอกระบบ ทั้งที่ยังจัดการศึกษาอยู่ ที่ปิดกิจการไปแล้ว ตลอดจนโรงเรียนที่มีแนวโน้มจะปิดกิจการ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการจัดการศึกษาให้เป็นไปตามนโยบาย ทั้งนี้ที่ผ่านมาพบว่ามีโรงเรียนเอกชนทยอยปิดกิจการลงเรื่อย ๆ ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัจจัย เช่น อัตราการเกิดของประชากรลดลง ทำให้มีจำนวนเด็กเข้าเรียนน้อย ครูมีการเคลื่อนย้ายหางานใหม่ที่มั่นคงกว่า โดยส่วนใหญ่จะไปสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู รวมทั้งยังมีปัญหาโรงเรียนขาดสภาพคล่องทางการเงิน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อนำมาวางแผนการพัฒนาได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีแนวโน้มจะปิดกิจการ สช.จะเข้าไปดูว่าจะช่วยเหลือให้สามารถจัดการศึกษาที่มีคุณภาพต่อได้อย่างไรนายพะโยม กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการช่วยเหลือ ดูแลโรงเรียนเอกชนนั้น ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ทำเรื่องเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ปรับเพิ่มการอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนโรงเรียนเอกชนรายบุคคล โดยปรับเพิ่มเงินอุดหนุนสมทบเป็นเงินเดือนครู เงินสบทบค่าธรรมเนียมโรงเรียนการกุศล เพิ่มปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน และช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก ใช้งบฯเพิ่มประมาณ 4,170.32 ล้านบาทต่อปี ซึ่งหากครม.อนุมัติก็จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่โรงเรียนเอกชนได้ นอกจากนี้ตนพร้อมด้วยผู้แทนจากสภาการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ได้เข้าชี้แจงกับกระทรวงการคลัง(กค.) เกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าหากรัฐใช้กฎหมายใหม่ เก็บภาษีกับโรงเรียนเอกชนด้วยจะส่งผลกระทบต่อกิจการของโรงเรียนเอกชน ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งทางกค.ก็เข้าใจ และมีแนวโน้มหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้โรงเรียนเอกชนในทิศทางที่ดีขึ้นขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์ วันที่: 27 ก.พ. 60 เวลา: 14:11 น.ขอบคุณ เว็บไซต์ครูบ้านนอกดอทคอม 1355

กรกฎาคม 29, 2023 - 19:00
 0  5
สช.เร่งสำรวจเอกชนจ่อปิดร.ร. ชงครม.เพิ่มเงินช่วยเหลือ 4.17พันล./ปี

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายพะโยม ชิณวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำรวจตัวเลขโรงเรียนเอกชนทั้งโรงเรียนสามัญศึกษาและโรงเรียนนอกระบบ ทั้งที่ยังจัดการศึกษาอยู่ ที่ปิดกิจการไปแล้ว ตลอดจนโรงเรียนที่มีแนวโน้มจะปิดกิจการ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการจัดการศึกษาให้เป็นไปตามนโยบาย ทั้งนี้ที่ผ่านมาพบว่ามีโรงเรียนเอกชนทยอยปิดกิจการลงเรื่อย ๆ ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัจจัย เช่น อัตราการเกิดของประชากรลดลง ทำให้มีจำนวนเด็กเข้าเรียนน้อย ครูมีการเคลื่อนย้ายหางานใหม่ที่มั่นคงกว่า โดยส่วนใหญ่จะไปสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู รวมทั้งยังมีปัญหาโรงเรียนขาดสภาพคล่องทางการเงิน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อนำมาวางแผนการพัฒนาได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีแนวโน้มจะปิดกิจการ สช.จะเข้าไปดูว่าจะช่วยเหลือให้สามารถจัดการศึกษาที่มีคุณภาพต่อได้อย่างไร

นายพะโยม กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการช่วยเหลือ ดูแลโรงเรียนเอกชนนั้น ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ทำเรื่องเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ปรับเพิ่มการอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนโรงเรียนเอกชนรายบุคคล โดยปรับเพิ่มเงินอุดหนุนสมทบเป็นเงินเดือนครู เงินสบทบค่าธรรมเนียมโรงเรียนการกุศล เพิ่มปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน และช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก ใช้งบฯเพิ่มประมาณ 4,170.32 ล้านบาทต่อปี ซึ่งหากครม.อนุมัติก็จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่โรงเรียนเอกชนได้ นอกจากนี้ตนพร้อมด้วยผู้แทนจากสภาการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ได้เข้าชี้แจงกับกระทรวงการคลัง(กค.) เกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าหากรัฐใช้กฎหมายใหม่ เก็บภาษีกับโรงเรียนเอกชนด้วยจะส่งผลกระทบต่อกิจการของโรงเรียนเอกชน ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งทางกค.ก็เข้าใจ และมีแนวโน้มหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้โรงเรียนเอกชนในทิศทางที่ดีขึ้น


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์ วันที่: 27 ก.พ. 60 เวลา: 14:11 น.

ขอบคุณ เว็บไซต์ครูบ้านนอกดอทคอม

1355

ปฏิกิริยาของคุณคืออะไร?

like

dislike

love

funny

angry

sad

wow