สพฐ.ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็ก และแนวปฏิบัติรับเด็กเข้าเรียนอนุบาล 3 ปี
สพฐ.ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็ก และแนวปฏิบัติรับเด็กเข้าเรียนอนุบาล 3 ปี ตามรัฐธรรมนูญวันนี้(15 พ.ค.)ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เปิดเผยว่า ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 54 กำหนดให้รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียน จนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งรัฐต้องดำเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาตามวรรค 1 เพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการนั้น เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญดังกล่าว สพฐ.ได้ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็ก เพื่อเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของสพฐ. รวมถึงแนวปฏิบัติในการรับเด็กเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา สำหรับเด็กอายุ 3 ปีบริบูรณ์ ปีการศึกษา 2560 โดยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการ กพฐ.ได้ลงนามในประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็กฯเมื่อวันที่ 11 พ.ค.2560ดร.อำนาจ กล่าวต่อไปว่า สำหรับประกาศเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็กฯนั้น ระบุว่า1.การรับเด็กเข้าศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัด สพฐ.ให้รับเด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า 3 ปี บริบูรณ์เข้าศึกษาในชั้น อ.1 และ2.การนับอายุเด็กเพื่อเข้าเรียนระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของ สพฐ.ให้นับตั้งแต่วันที่เกิดไปจนถึงวันเปิดภาคเรียนที่ 1 วันที่ 16 พ.ค.ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ.2559ส่วนแนวปฏิบัติการับเด็กเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาฯ สังกัด สพฐ. ปีการศึกษา 2560 ดังนี้1.สถานศึกษาที่เคยรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์อยู่แล้วก่อนปีการศึกษา 2560 ให้สามารถเปิดรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์ต่อไปได้ ไม่เกินจำนวนห้องที่รับอยู่เดิม2.สถานศึกษาที่ไม่เคยเปิดรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์มาก่อน หากในเขตพื้นที่บริการไม่มีสถานศึกษาหรือศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนสังกัดอื่นเปิดรับอยู่ ให้สามารถรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่บริการได้ตามความพร้อมของสถานศึกษา3.พื้นที่ใดในเขตบริการที่มีสถานศึกษาหรือศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนสังกัดอื่นจัดการศึกษาอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์อยู่แล้ว แต่มีจำนวนเด็กเกินขีดความสามารถของสถานศึกษานั้น ให้สถานศึกษาสังกัด สพฐ.เปิดรับได้ตามความพร้อมของสถานศึกษา4.การจัดชั้นเรียน เด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า 3 ปีบริบูรณ์เข้ารับการศึกษาในชั้น อ.1 เด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า 4 ปีบริบูรณ์ และ 5 ปีบริบูรณ์เข้าเรียนในชั้น อ.2 และ อ.3 ตามลำดับทั้งนี้การดำเนินการตามข้อ 1-3 ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานั้น ๆขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2560 เวลา 15.19 น.ด้านมติชนออนไลน์ ได้นำเสนอข่าวนี้ ดังนี้สพฐ.ออกแนวปฏิบัติอนุบาล 3ขวบเรียนฟรีตามรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นายอำนาจ วิชยานุวัติ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เปิดเผยว่า ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 54 กำหนดให้รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียน(อายุ3 ปีบริบูรณ์) จนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งรัฐต้องดำเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาตามวรรค 1 เพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการนั้น เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จึงได้ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็ก เพื่อเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของสพฐ. รวมถึงแนวปฏิบัติในการรับเด็กเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา สำหรับเด็กอายุ 3 ปีบริบูรณ์ปีการศึกษา 2560 โดยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการกพฐ.ได้ลงนามในประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็กฯเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2560นายอำนาจ กล่าวต่อว่า สำหรับประกาศเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็กฯนั้น ระบุว่า1.การรับเด็กเข้าศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสพฐ.ให้รับเด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า 3 ปี บริบูรณ์เข้าศึกษาในชั้นอนุบาล 1 และ2.การนับอายุเด็กเพื่อเข้าเรียนระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของสพฐ.ให้นับตั้งแต่วันที่เกิดไปจนถึงวันเปิดภาคเรียนที่1วันที่ 16 พฤษภาคม ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ.2559ส่วนแนวปฏิบัติการรับเด็กเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน(สำหรับเด็กอายุ3ปีบริบูรณ์)สังกัดสพฐ.ปีการศึกษา 2560 ดังนี้1.สถานศึกษาที่เคยรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปี บริบูรณ์อยู่แล้วก่อนปีการศึกษา 2560 ให้สามารถเปิดรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์ต่อไปได้ ไม่เกินจำนวนห้องที่รับอยู่เดิม2.สถานศึกษาที่ไม่เคยเปิดรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์มาก่อน หากในเขตพื้นที่บริการไม่มีสถานศึกษาหรือศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนสังกัดอื่นเปิดรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์ให้สามารถรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่บริการได้ตามความพร้อมของสถานศึกษา3.พื้นที่ใดในเขตบริการที่มีสถานศึกษาหรือศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนสังกัดอื่นจัดการศึกษาอนุบาลอายุ3ปีบริบูรณ์อยู่แล้ว แต่มีจำนวนเด็กเกินขีดความสามารถในการรับของสถานศึกษานั้น ๆให้สถานศึกษาสังกัดสพฐ.เปิดรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์ได้ตามความพร้อมของสถานศึกษา4.การจัดชั้นเรียน เด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า 3 ปีบริบูรณ์เข้ารับการศึกษาในชั้นอนุบาล 1 เด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า 4ปีบริบูรณ์ และ 5 ปีบริบูรณ์เข้าร
สพฐ.ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็ก และแนวปฏิบัติรับเด็กเข้าเรียนอนุบาล 3 ปี ตามรัฐธรรมนูญ
วันนี้(15 พ.ค.)ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เปิดเผยว่า ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 54 กำหนดให้รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียน จนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งรัฐต้องดำเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาตามวรรค 1 เพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการนั้น เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญดังกล่าว สพฐ.ได้ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็ก เพื่อเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของสพฐ. รวมถึงแนวปฏิบัติในการรับเด็กเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา สำหรับเด็กอายุ 3 ปีบริบูรณ์ ปีการศึกษา 2560 โดยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการ กพฐ.ได้ลงนามในประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็กฯเมื่อวันที่ 11 พ.ค.2560
ดร.อำนาจ กล่าวต่อไปว่า สำหรับประกาศเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็กฯนั้น ระบุว่า
1.การรับเด็กเข้าศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัด สพฐ.ให้รับเด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า 3 ปี บริบูรณ์เข้าศึกษาในชั้น อ.1 และ
2.การนับอายุเด็กเพื่อเข้าเรียนระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของ สพฐ.ให้นับตั้งแต่วันที่เกิดไปจนถึงวันเปิดภาคเรียนที่ 1 วันที่ 16 พ.ค.ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ.2559
ส่วนแนวปฏิบัติการับเด็กเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาฯ สังกัด สพฐ. ปีการศึกษา 2560 ดังนี้
1.สถานศึกษาที่เคยรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์อยู่แล้วก่อนปีการศึกษา 2560 ให้สามารถเปิดรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์ต่อไปได้ ไม่เกินจำนวนห้องที่รับอยู่เดิม
2.สถานศึกษาที่ไม่เคยเปิดรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์มาก่อน หากในเขตพื้นที่บริการไม่มีสถานศึกษาหรือศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนสังกัดอื่นเปิดรับอยู่ ให้สามารถรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่บริการได้ตามความพร้อมของสถานศึกษา
3.พื้นที่ใดในเขตบริการที่มีสถานศึกษาหรือศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนสังกัดอื่นจัดการศึกษาอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์อยู่แล้ว แต่มีจำนวนเด็กเกินขีดความสามารถของสถานศึกษานั้น ให้สถานศึกษาสังกัด สพฐ.เปิดรับได้ตามความพร้อมของสถานศึกษา
4.การจัดชั้นเรียน เด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า 3 ปีบริบูรณ์เข้ารับการศึกษาในชั้น อ.1 เด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า 4 ปีบริบูรณ์ และ 5 ปีบริบูรณ์เข้าเรียนในชั้น อ.2 และ อ.3 ตามลำดับ
ทั้งนี้การดำเนินการตามข้อ 1-3 ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานั้น ๆ
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2560 เวลา 15.19 น.
ด้านมติชนออนไลน์ ได้นำเสนอข่าวนี้ ดังนี้
สพฐ.ออกแนวปฏิบัติอนุบาล 3ขวบเรียนฟรีตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นายอำนาจ วิชยานุวัติ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เปิดเผยว่า ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 54 กำหนดให้รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียน(อายุ3 ปีบริบูรณ์) จนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งรัฐต้องดำเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาตามวรรค 1 เพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคมและสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการนั้น เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จึงได้ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็ก เพื่อเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของสพฐ. รวมถึงแนวปฏิบัติในการรับเด็กเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา สำหรับเด็กอายุ 3 ปีบริบูรณ์ปีการศึกษา 2560 โดยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการกพฐ.ได้ลงนามในประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็กฯเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2560
นายอำนาจ กล่าวต่อว่า สำหรับประกาศเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็กฯนั้น ระบุว่า
1.การรับเด็กเข้าศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสพฐ.ให้รับเด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า 3 ปี บริบูรณ์เข้าศึกษาในชั้นอนุบาล 1 และ
2.การนับอายุเด็กเพื่อเข้าเรียนระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของสพฐ.ให้นับตั้งแต่วันที่เกิดไปจนถึงวันเปิดภาคเรียนที่1วันที่ 16 พฤษภาคม ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ.2559
ส่วนแนวปฏิบัติการรับเด็กเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน(สำหรับเด็กอายุ3ปีบริบูรณ์)สังกัดสพฐ.ปีการศึกษา 2560 ดังนี้
1.สถานศึกษาที่เคยรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปี บริบูรณ์อยู่แล้วก่อนปีการศึกษา 2560 ให้สามารถเปิดรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์ต่อไปได้ ไม่เกินจำนวนห้องที่รับอยู่เดิม
2.สถานศึกษาที่ไม่เคยเปิดรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์มาก่อน หากในเขตพื้นที่บริการไม่มีสถานศึกษาหรือศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนสังกัดอื่นเปิดรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์ให้สามารถรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่บริการได้ตามความพร้อมของสถานศึกษา
3.พื้นที่ใดในเขตบริการที่มีสถานศึกษาหรือศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนสังกัดอื่นจัดการศึกษาอนุบาลอายุ3ปีบริบูรณ์อยู่แล้ว แต่มีจำนวนเด็กเกินขีดความสามารถในการรับของสถานศึกษานั้น ๆให้สถานศึกษาสังกัดสพฐ.เปิดรับเด็กอนุบาลอายุ 3 ปีบริบูรณ์ได้ตามความพร้อมของสถานศึกษา
4.การจัดชั้นเรียน เด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า 3 ปีบริบูรณ์เข้ารับการศึกษาในชั้นอนุบาล 1 เด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า 4ปีบริบูรณ์ และ 5 ปีบริบูรณ์เข้ารับการศึกษาในชั้นอนุบาล 2 และ 3 ตามลำดับ
ทั้งนี้การดำเนินการตามข้อ 1-3 ให้ดำเนินการได้โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานั้น ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณ เว็บไซต์ครูบ้านนอกดอทคอม
1771
ปฏิกิริยาของคุณคืออะไร?