สพฐ.ปัดแบ่งส่วนเขตพื้นที่ เหลือแค่งานเสมียน ยันผู้บริหารพื้นที่มีอำนาจเต็ม เตรียมจัดกรอบอัตรา’สพท.-ศธจ.’ใหม่
สพฐ.ปัดแบ่งส่วนเขตพื้นที่ เหลือแค่งานเสมียน ยันผู้บริหารพื้นที่มีอำนาจเต็ม เตรียมจัดกรอบอัตรา’สพท.-ศธจ.’ใหม่เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ออกประกาศศธ. เรื่องแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) พ.ศ.2560 ซึ่งมีการเพิ่มแบ่งกลุ่มงานเพิ่มเติมมา 2 กลุ่ม คือ กลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกลเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ทำให้เพิ่มผู้อำนวยการกลุ่มระดับ (ซี) 8 ถึง 450 อัตรานั้นว่า ขณะนี้กรอบอัตรากำลังดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน จำนวน 450 อัตรา เป็นเพียงการประมาณการจากจำนวนกลุ่มงานที่เพิ่มขึ้นต่อเขตพื้นที่เท่านั้น ซึ่งการเกลี่ยบุคลากร อาจไม่ใช่แค่ 2 กลุ่มงานที่เกิดขึ้นใหม่ ยังมีบุคลากรในส่วนอื่น ๆ ภายในสพท.ที่ต้องเร่งดำเนินการให้เรียบร้อย เพื่อให้แต่ละพื้นที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามสำหรับบุคลากร จะมาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ตําแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค (2) แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งตำแหน่งใด ถ้ามีคนอยู่แล้ว ก็ใช้วิธีการเกลี่ย ส่วนตำแหน่งใดที่ยังไม่มี ก็อาจต้องใช้วิธีการสรรหาใหม่ ทั้งนี้การเพิ่มอัตรากำลังดังกล่าว จะไม่เป็นภาระต่องบประมาณแผ่นดิน“สพฐ. จะร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนดกรอบอัตรากำลังดังกล่าว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ ดังนั้นคงบอกไม่ได้ว่า ตัวเลขกรอบอัตรากำลังจะเป็นเท่าไร เพราะบอกไปก็อาจจะไม่ถูกต้อง และไม่ควรชี้ลงไปเพราะยังมีองค์คณะซึ่งมีหน้าที่ในการพิจารณา ส่วนที่ระบุว่า การเพิ่มกลุ่มงานดังกล่าว สุดท้ายแล้วให้สพท. ทำแค่งานเสมียนให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) นั้น ไม่เป็นความจริง สพท. มีอำนาจทั้งหมดในฐานะผู้บังคับบัญชา ส่วนเอกสารที่ออกไปนั้น เป็นการระบุภาระกลุ่มงาน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ไม่ได้บอกถึงภาระหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา ซึ่งการเขียนเช่นนั้นถูกแล้ว” นายบุญรักษ์กล่าวผู้สื่อข่าวถามว่า การเพิ่ม 2 กลุ่มงานดังกล่าว ทำให้มีผู้อำนวยการกลุ่ม ซี 8 ถึง 450 ตำแหน่ง นายบุญรักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตัวเลขยังไม่ชัดเจน เพราะบางทีเป็นการเกลี่ยอัตรากำลังมา และไม่ได้เพิ่มเฉพาะ 2 กลุ่มนี้ แต่จะต้องมีการเพิ่มบุคลากรในส่วนอื่นๆ ของสพท.เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ ส่วนที่ถามว่าอัตรากำลังของศธจ.จะต้องมีการปรับให้เหมาะสมด้วยหรือไม่ ขณะนี้มีการคิดกรอบอัตรากำลังในส่วนของศธจ.ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เหลือเพียงเสนออนุมัติจากก.ค.ศ.เห็นชอบอัตรากำลัง ส่วนจะเพิ่มเท่าไรนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียดขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์ วันที่ 11 ธันวาคม 2560 - 15:07 น. 3277
สพฐ.ปัดแบ่งส่วนเขตพื้นที่ เหลือแค่งานเสมียน ยันผู้บริหารพื้นที่มีอำนาจเต็ม เตรียมจัดกรอบอัตรา’สพท.-ศธจ.’ใหม่
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ออกประกาศศธ. เรื่องแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) พ.ศ.2560 ซึ่งมีการเพิ่มแบ่งกลุ่มงานเพิ่มเติมมา 2 กลุ่ม คือ กลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกลเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ทำให้เพิ่มผู้อำนวยการกลุ่มระดับ (ซี) 8 ถึง 450 อัตรานั้นว่า ขณะนี้กรอบอัตรากำลังดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน จำนวน 450 อัตรา เป็นเพียงการประมาณการจากจำนวนกลุ่มงานที่เพิ่มขึ้นต่อเขตพื้นที่เท่านั้น ซึ่งการเกลี่ยบุคลากร อาจไม่ใช่แค่ 2 กลุ่มงานที่เกิดขึ้นใหม่ ยังมีบุคลากรในส่วนอื่น ๆ ภายในสพท.ที่ต้องเร่งดำเนินการให้เรียบร้อย เพื่อให้แต่ละพื้นที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามสำหรับบุคลากร จะมาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ตําแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค (2) แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งตำแหน่งใด ถ้ามีคนอยู่แล้ว ก็ใช้วิธีการเกลี่ย ส่วนตำแหน่งใดที่ยังไม่มี ก็อาจต้องใช้วิธีการสรรหาใหม่ ทั้งนี้การเพิ่มอัตรากำลังดังกล่าว จะไม่เป็นภาระต่องบประมาณแผ่นดิน
“สพฐ. จะร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนดกรอบอัตรากำลังดังกล่าว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ ดังนั้นคงบอกไม่ได้ว่า ตัวเลขกรอบอัตรากำลังจะเป็นเท่าไร เพราะบอกไปก็อาจจะไม่ถูกต้อง และไม่ควรชี้ลงไปเพราะยังมีองค์คณะซึ่งมีหน้าที่ในการพิจารณา ส่วนที่ระบุว่า การเพิ่มกลุ่มงานดังกล่าว สุดท้ายแล้วให้สพท. ทำแค่งานเสมียนให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) นั้น ไม่เป็นความจริง สพท. มีอำนาจทั้งหมดในฐานะผู้บังคับบัญชา ส่วนเอกสารที่ออกไปนั้น เป็นการระบุภาระกลุ่มงาน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ไม่ได้บอกถึงภาระหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา ซึ่งการเขียนเช่นนั้นถูกแล้ว” นายบุญรักษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเพิ่ม 2 กลุ่มงานดังกล่าว ทำให้มีผู้อำนวยการกลุ่ม ซี 8 ถึง 450 ตำแหน่ง นายบุญรักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตัวเลขยังไม่ชัดเจน เพราะบางทีเป็นการเกลี่ยอัตรากำลังมา และไม่ได้เพิ่มเฉพาะ 2 กลุ่มนี้ แต่จะต้องมีการเพิ่มบุคลากรในส่วนอื่นๆ ของสพท.เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ ส่วนที่ถามว่าอัตรากำลังของศธจ.จะต้องมีการปรับให้เหมาะสมด้วยหรือไม่ ขณะนี้มีการคิดกรอบอัตรากำลังในส่วนของศธจ.ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เหลือเพียงเสนออนุมัติจากก.ค.ศ.เห็นชอบอัตรากำลัง ส่วนจะเพิ่มเท่าไรนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์ วันที่ 11 ธันวาคม 2560 - 15:07 น.
3277
ปฏิกิริยาของคุณคืออะไร?
