ส่งฟ้องศาลคดี ‘ผู้กองเหน่ง’ ฆ่า ผอ.อ้อย 11 ข้อหา-พ่อดีใจลูกไม่ตายฟรี หวังได้รับโทษสาสม
ส่งฟ้องศาลคดี ‘ผู้กองเหน่ง’ ฆ่า ผอ.อ้อย 11 ข้อหา-พ่อดีใจลูกไม่ตายฟรี หวังได้รับโทษสาสมเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการจังหวัดกันทรลักษ์ เปิดเผยว่า พนักงานอัยการจังหวัดกันทรลักษ์ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีที่ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย อายุ 38 ปี อดีต ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปนาน 3 เดือนกว่า ก่อนพบโครงกระดูก นาฬิกา และเสื้อผ้าของ ผอ.อ้อย ถูกทิ้งอยู่ริมถนนทางขึ้นเนิน 500 อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ไปส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดกันทรลักษ์ โดยมี ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กับพวก รวม 4 คน เป็นผู้ต้องหาของคดีนี้นายศักดา กล่าวต่อว่า สำนวนคดีมีจำนวน 4 แฟ้ม ประมาณ 3,000 หน้า ซึ่งนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน และนางแหลม อุ่นอ่อน พ่อและแม่ของ ผอ.อ้อย รวมทั้งญาติพี่น้องได้มาติดตามเรื่องนี้ที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ด้วย โดยการส่งฟ้องครั้งนี้ยังไม่ได้มีการเบิกตัวผู้กองเหน่ง ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ อ.กันทรลักษ์ มาที่ศาล คาดว่าจะนำตัวมาที่ศาลในวันที่ 8 ม.ค. โดยพนักงานอัยการ จ.กันทรลักษ์ ได้คัดค้านการประกันตัวจำเลยที่ 1 คือผู้กองเหน่ง ส่วนจำเลยที่ 2-4 ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากมีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร ร่วมกันเอาเสียเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ร่วมกันปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอมนายศักดา กล่าวต่อว่า แม้ว่าคดีนี้พนักงานสอบสวนจะไม่มีประจักษ์พยาน แต่จากพยานหลักฐานต่างๆ ที่พนักงานสอบสวนรวบรวมมาครบถ้วน เช่น พยานทางโทรศัพท์ การติดต่อทางโทรศัพท์ พยานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งหลักฐานการโอนเงินต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักฐานทางโทรศัพท์ที่ชี้ชัดว่า ผอ.อ้อย และผู้ต้องหาไปด้วยกันตลอดในวันที่ ผอ.อ้อย หายตัวไป ขณะนี้ได้แจ้งข้อหากับ ร.อ.ศุภชัย จำนวน 11 ข้อหา รวม 13 กระทง“ข้อหาหนักที่สุด คือ ข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นอันเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ลอบฝังซ่อนเร้นอำพรางศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ซึ่งตนมั่นใจว่าพยานหลักฐานต่างๆ มีความครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลจังหวัดกันทรลักษ์” นายศักดากล่าวด้านนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า ตนดีใจที่พนักงานอัยการจังหวัดกันทรลักษ์ ได้สั่งฟ้องผู้กองเหน่งตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทำให้ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าลูกสาวของตนจะไม่ตายฟรี ทุกครั้งที่จะมีการพิจารณาคดีของลูกสาว ตนกับญาติพี่น้องจะพากันมาที่ศาล เพื่อติดตามรับฟังการพิจารณาคดี ตนหวังว่าผู้ต้องหาจะได้รับโทษอย่างสาสมตามกฎหมาย เพื่อให้ลูกสาวของตนที่ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดนอนตายตาหลับ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าเป็นผู้ต้องหารายนี้อย่างแน่นอน 3376
ส่งฟ้องศาลคดี ‘ผู้กองเหน่ง’ ฆ่า ผอ.อ้อย 11 ข้อหา-พ่อดีใจลูกไม่ตายฟรี หวังได้รับโทษสาสม
เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการจังหวัดกันทรลักษ์ เปิดเผยว่า พนักงานอัยการจังหวัดกันทรลักษ์ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีที่ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย อายุ 38 ปี อดีต ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปนาน 3 เดือนกว่า ก่อนพบโครงกระดูก นาฬิกา และเสื้อผ้าของ ผอ.อ้อย ถูกทิ้งอยู่ริมถนนทางขึ้นเนิน 500 อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ไปส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดกันทรลักษ์ โดยมี ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กับพวก รวม 4 คน เป็นผู้ต้องหาของคดีนี้
นายศักดา กล่าวต่อว่า สำนวนคดีมีจำนวน 4 แฟ้ม ประมาณ 3,000 หน้า ซึ่งนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน และนางแหลม อุ่นอ่อน พ่อและแม่ของ ผอ.อ้อย รวมทั้งญาติพี่น้องได้มาติดตามเรื่องนี้ที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ด้วย โดยการส่งฟ้องครั้งนี้ยังไม่ได้มีการเบิกตัวผู้กองเหน่ง ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ อ.กันทรลักษ์ มาที่ศาล คาดว่าจะนำตัวมาที่ศาลในวันที่ 8 ม.ค. โดยพนักงานอัยการ จ.กันทรลักษ์ ได้คัดค้านการประกันตัวจำเลยที่ 1 คือผู้กองเหน่ง ส่วนจำเลยที่ 2-4 ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากมีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร ร่วมกันเอาเสียเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ร่วมกันปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม
นายศักดา กล่าวต่อว่า แม้ว่าคดีนี้พนักงานสอบสวนจะไม่มีประจักษ์พยาน แต่จากพยานหลักฐานต่างๆ ที่พนักงานสอบสวนรวบรวมมาครบถ้วน เช่น พยานทางโทรศัพท์ การติดต่อทางโทรศัพท์ พยานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งหลักฐานการโอนเงินต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักฐานทางโทรศัพท์ที่ชี้ชัดว่า ผอ.อ้อย และผู้ต้องหาไปด้วยกันตลอดในวันที่ ผอ.อ้อย หายตัวไป ขณะนี้ได้แจ้งข้อหากับ ร.อ.ศุภชัย จำนวน 11 ข้อหา รวม 13 กระทง
“ข้อหาหนักที่สุด คือ ข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นอันเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ลอบฝังซ่อนเร้นอำพรางศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ซึ่งตนมั่นใจว่าพยานหลักฐานต่างๆ มีความครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลจังหวัดกันทรลักษ์” นายศักดากล่าว
ด้านนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า ตนดีใจที่พนักงานอัยการจังหวัดกันทรลักษ์ ได้สั่งฟ้องผู้กองเหน่งตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทำให้ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าลูกสาวของตนจะไม่ตายฟรี ทุกครั้งที่จะมีการพิจารณาคดีของลูกสาว ตนกับญาติพี่น้องจะพากันมาที่ศาล เพื่อติดตามรับฟังการพิจารณาคดี ตนหวังว่าผู้ต้องหาจะได้รับโทษอย่างสาสมตามกฎหมาย เพื่อให้ลูกสาวของตนที่ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดนอนตายตาหลับ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าเป็นผู้ต้องหารายนี้อย่างแน่นอน
3376
ปฏิกิริยาของคุณคืออะไร?
