อุ่นหัวใจ นักเรียนร่วมใจสร้างบ้านบนดอย ให้ ผอ.หลังเกษียณ ตอบแทนความรัก 14 ปี
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อย สุดปลื้ม ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันร่วมแรงร่วมใจ สร้างบ้านพักให้อยู่หลังเกษียณ ตอบแทนความรักความผูกพัน เผยเป็นโรงเรียนบนดอยสุดชายขอบเชียงใหม่ ฤดูฝนต้องเดินทางฝ่าโคลน 10 ชั่วโมง แต่ไม่เคยคิดย้ายตลอด 14 ปี เพราะทิ้งเด็กๆ ไม่ลง เหลืออีก 2 ปี ตั้งใจเกษียณราชการที่โรงเรียนแห่งนี้ บ้านไม้ยกสูงขนาดกะทัดรัด มีห้องนอน ห้องน้ำ ถูกสร้างขึ้นบนที่ดินท่ามกลางธรรมชาติ ข้างแปลงเกษตรของโรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อย หมู่ 13 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เป็นของขวัญจากใจ มอบให้กับผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ใช้เป็นบ้านสำหรับพักผ่อนหลังเกษียณราชการในอีกสองปีข้างหน้า โดยบ้านหลังนี้มาจากการร่วมแรงร่วมใจของบรรดาศิษย์เก่าของโรงเรียน ที่ตั้งใจมอบให้เพื่อแสดงถึงความกตัญญูของลูกศิษย์ที่มีต่อครูผู้คอยดูแลสั่งสอนจนจบการศึกษา ออกไปประกอบอาชีพ เป็นคนดีของสังคม นางอำไพ มณีวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อย บอกว่า รับราชการครูมาตั้งแต่ปี 2536 ก่อนจะสอบได้เป็นผู้บริหารและเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนที่โรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อยในปี 2550 เมื่อมารับตำแหน่งแรกๆ พบปัญหาเด็กไม่ยอมมาเรียน เนื่องจากส่วนใหญ่บ้านอยู่ไกล การเดินทางยากลำบาก หากจะมาเรียนก็ต้องมากินนอนที่โรงเรียน ทำให้หลายคนไม่อยากมา ไม่อยากห่างพ่อแม่ เมื่อเห็นสภาพปัญหานี้ จึงทำทุกอย่างในการดูแลเด็กๆ โดยเฉพาะการดูแลเลี้ยงดูทั้งอาหารการกินและความเป็นอยู่ มอบความรักความอบอุ่น ควบคู่ไปกับการเรียนการสอน ทำให้เด็กๆ เกิดความอบอุ่นสบายใจ พากันมาเรียนหนังสือกันมากขึ้น พร้อมกับพยายามหาโอกาสผลักดันให้เด็กได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น นางอำไพ ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีโอกาสย้ายไปอยู่ในโรงเรียนนอกพื้นที่ทุรกันดาร แต่ก็เลือกที่จะอยู่ต่อ เพราะมองว่าคนที่ย้ายมาแทน คงจะหาคนที่อยากมาอยู่ด้วยใจ และต้องการพัฒนาเด็กจริงๆ ได้ยาก ส่วนใหญ่ก็คงจะย้ายมารับตำแหน่งและย้ายออกไปเมื่อมีโอกาส จะทำให้การพัฒนาโรงเรียนขาดความต่อเนื่อง อีกเหตุผลสำคัญก็คือ อยู่โรงเรียนนี้มานานจนเกิดความรักความผูกพันเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง ทุกคนในโรงเรียนเหมือนครอบครัวเดียวกัน จึงตั้งใจจะทำงานที่นี่ไปจนกว่าจะเกษียณในอีกสองปีข้างหน้าสำหรับบ้านหลังนี้มี นายคือที วิมุตวโรตม์ อายุ 25 ปี ศิษย์เก่าที่จบ ป.6 ไปหลายปีก่อนหน้า แต่ไม่ได้เรียนต่อ เพราะบ้านฐานะยากจน ต้องเสียสละให้น้องๆ ได้เรียนหนังสือแทน ตนเองจึงพยายามส่งเสริมให้เรียน กศน. จนจบ ปัจจุบันมีอาชีพการงานเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว เป็นคนดีในสังคม พร้อมทั้งยังส่งน้องเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ลูกศิษย์คนนี้ได้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงชักชวนเพื่อนๆ ศิษย์เก่ามาสร้างบ้านหลังนี้ให้ ตั้งใจให้กลับมาพักผ่อนหลังเกษียณ เพราะเด็กๆ ทุกคนรู้ว่าตนเองมีความสุขเมื่ออยู่บนดอย โดยระดมทุนจากศิษย์เก่าและผู้สนับสนุน ได้เงินมากว่าหกหมื่น นำไปซื้อไม้ อุปกรณ์ก่อสร้าง พร้อมกับลงแขกออกแรงทั้งศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ช่วยกันสร้างบ้านลงบนที่ดินของผู้ปกครองคนหนึ่งที่สละพื้นที่ให้ นางอำไพ บอกว่า ปลื้มใจและชอบบ้านหลังนี้มาก เพราะนอกจากจะเป็นที่พักเวลากลับขึ้นมาหาเด็กๆ บ้านหลังนี้ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจที่แสดงถึงความรักของนักเรียน บอกถึงความกตัญญู แม้ราคาไม่มากแต่มีคุณค่าทางจิตใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำงานอย่างตั้งใจไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน จึงรู้สึกตื้นตันใจกับของขวัญชิ้นนี้ นางอำไพ กล่าวว่า หลังเกษียณราชการจะกลับไปอยู่บ้านที่ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ และ จะกลับขึ้นไปพักผ่อนอยู่กับเด็กๆ ในฤดูหนาวของทุกปี สำหรับโรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อยเป็นโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล เป็นโรงเรียนที่อยู่สุดขอบด้านทิศใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากเขตติดต่อ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก 7 กิโลเมตร อยู่ห่างจาก อ.เมืองเชียงใหม่ 298 กิโลเมตร การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง ส่วนในฤดูฝนยากลำบากเพราะเส้นทางกลายเป็นทะเลโคลน ใช้เวลาเดินทางเกือบ 10 ชั่วใมง ปัจจุบันมีครูที่เป็นข้าราชการ 10 คน ครูจ้างสอน 5 คน ส่วนเด็กนักเรียนมีตั้งแต่อนุบาล 1 ถึง ป.6 จำนวน 152 คน ในจำนวนนี้เป็นนักเรียนที่พักอยู่ในโรงเรียนเนื่องจากบ้านอยู่ไกล 83 คน ขอบคุณที่มา : https://www.sanook.com/ภาพที่เกี่ยวข้อง 6174
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อย สุดปลื้ม ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันร่วมแรงร่วมใจ สร้างบ้านพักให้อยู่หลังเกษียณ ตอบแทนความรักความผูกพัน เผยเป็นโรงเรียนบนดอยสุดชายขอบเชียงใหม่ ฤดูฝนต้องเดินทางฝ่าโคลน 10 ชั่วโมง แต่ไม่เคยคิดย้ายตลอด 14 ปี เพราะทิ้งเด็กๆ ไม่ลง เหลืออีก 2 ปี ตั้งใจเกษียณราชการที่โรงเรียนแห่งนี้
บ้านไม้ยกสูงขนาดกะทัดรัด มีห้องนอน ห้องน้ำ ถูกสร้างขึ้นบนที่ดินท่ามกลางธรรมชาติ ข้างแปลงเกษตรของโรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อย หมู่ 13 ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เป็นของขวัญจากใจ มอบให้กับผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ใช้เป็นบ้านสำหรับพักผ่อนหลังเกษียณราชการในอีกสองปีข้างหน้า โดยบ้านหลังนี้มาจากการร่วมแรงร่วมใจของบรรดาศิษย์เก่าของโรงเรียน ที่ตั้งใจมอบให้เพื่อแสดงถึงความกตัญญูของลูกศิษย์ที่มีต่อครูผู้คอยดูแลสั่งสอนจนจบการศึกษา ออกไปประกอบอาชีพ เป็นคนดีของสังคม
นางอำไพ มณีวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อย บอกว่า รับราชการครูมาตั้งแต่ปี 2536 ก่อนจะสอบได้เป็นผู้บริหารและเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนที่โรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อยในปี 2550
เมื่อมารับตำแหน่งแรกๆ พบปัญหาเด็กไม่ยอมมาเรียน เนื่องจากส่วนใหญ่บ้านอยู่ไกล การเดินทางยากลำบาก หากจะมาเรียนก็ต้องมากินนอนที่โรงเรียน ทำให้หลายคนไม่อยากมา ไม่อยากห่างพ่อแม่ เมื่อเห็นสภาพปัญหานี้ จึงทำทุกอย่างในการดูแลเด็กๆ โดยเฉพาะการดูแลเลี้ยงดูทั้งอาหารการกินและความเป็นอยู่ มอบความรักความอบอุ่น ควบคู่ไปกับการเรียนการสอน ทำให้เด็กๆ เกิดความอบอุ่นสบายใจ พากันมาเรียนหนังสือกันมากขึ้น พร้อมกับพยายามหาโอกาสผลักดันให้เด็กได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น
นางอำไพ ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีโอกาสย้ายไปอยู่ในโรงเรียนนอกพื้นที่ทุรกันดาร แต่ก็เลือกที่จะอยู่ต่อ เพราะมองว่าคนที่ย้ายมาแทน คงจะหาคนที่อยากมาอยู่ด้วยใจ และต้องการพัฒนาเด็กจริงๆ ได้ยาก ส่วนใหญ่ก็คงจะย้ายมารับตำแหน่งและย้ายออกไปเมื่อมีโอกาส จะทำให้การพัฒนาโรงเรียนขาดความต่อเนื่อง
อีกเหตุผลสำคัญก็คือ อยู่โรงเรียนนี้มานานจนเกิดความรักความผูกพันเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง ทุกคนในโรงเรียนเหมือนครอบครัวเดียวกัน จึงตั้งใจจะทำงานที่นี่ไปจนกว่าจะเกษียณในอีกสองปีข้างหน้า
สำหรับบ้านหลังนี้มี นายคือที วิมุตวโรตม์ อายุ 25 ปี ศิษย์เก่าที่จบ ป.6 ไปหลายปีก่อนหน้า แต่ไม่ได้เรียนต่อ เพราะบ้านฐานะยากจน ต้องเสียสละให้น้องๆ ได้เรียนหนังสือแทน ตนเองจึงพยายามส่งเสริมให้เรียน กศน. จนจบ ปัจจุบันมีอาชีพการงานเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว เป็นคนดีในสังคม พร้อมทั้งยังส่งน้องเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ลูกศิษย์คนนี้ได้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงชักชวนเพื่อนๆ ศิษย์เก่ามาสร้างบ้านหลังนี้ให้ ตั้งใจให้กลับมาพักผ่อนหลังเกษียณ เพราะเด็กๆ ทุกคนรู้ว่าตนเองมีความสุขเมื่ออยู่บนดอย โดยระดมทุนจากศิษย์เก่าและผู้สนับสนุน ได้เงินมากว่าหกหมื่น นำไปซื้อไม้ อุปกรณ์ก่อสร้าง พร้อมกับลงแขกออกแรงทั้งศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ช่วยกันสร้างบ้านลงบนที่ดินของผู้ปกครองคนหนึ่งที่สละพื้นที่ให้
นางอำไพ บอกว่า ปลื้มใจและชอบบ้านหลังนี้มาก เพราะนอกจากจะเป็นที่พักเวลากลับขึ้นมาหาเด็กๆ บ้านหลังนี้ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจที่แสดงถึงความรักของนักเรียน บอกถึงความกตัญญู แม้ราคาไม่มากแต่มีคุณค่าทางจิตใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำงานอย่างตั้งใจไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน จึงรู้สึกตื้นตันใจกับของขวัญชิ้นนี้
นางอำไพ กล่าวว่า หลังเกษียณราชการจะกลับไปอยู่บ้านที่ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ และ จะกลับขึ้นไปพักผ่อนอยู่กับเด็กๆ ในฤดูหนาวของทุกปี
สำหรับโรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อยเป็นโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล เป็นโรงเรียนที่อยู่สุดขอบด้านทิศใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากเขตติดต่อ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก 7 กิโลเมตร อยู่ห่างจาก อ.เมืองเชียงใหม่ 298 กิโลเมตร การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง ส่วนในฤดูฝนยากลำบากเพราะเส้นทางกลายเป็นทะเลโคลน ใช้เวลาเดินทางเกือบ 10 ชั่วใมง
ปัจจุบันมีครูที่เป็นข้าราชการ 10 คน ครูจ้างสอน 5 คน ส่วนเด็กนักเรียนมีตั้งแต่อนุบาล 1 ถึง ป.6 จำนวน 152 คน ในจำนวนนี้เป็นนักเรียนที่พักอยู่ในโรงเรียนเนื่องจากบ้านอยู่ไกล 83 คน
ขอบคุณที่มา : https://www.sanook.com/
ภาพที่เกี่ยวข้อง
| |
6174
ปฏิกิริยาของคุณคืออะไร?