เทคนิคการอ่าหนังสือ ของ "ญาญ่าอุรัสยา" เรียนจบจุฬาฯ ด้วยเกรด 3.00 + !
เทคนิคการอ่าหนังสือ ของ "ญาญ่าอุรัสยา" เรียนจบจุฬาฯ ด้วยเกรด 3.00 + !บทสัมภาษณ์ญาญ่าเกี่ยวกับการเรียนและการทำงาน ว่ามีเทคนิคอย่างไรถึงทำให้ทั้งเรียนและทำงานควบคู่กันไปได้เป็นอย่างดี น้องๆที่กำลังศึกษาอยู่ลองนำเทคนิคพี่ญาญ่าไปใช้ได้เพราะตัวญ่าเองได้พิสูจน์แล้วว่าได้ผลเป็นอย่างดีประสบความสำเร็จทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงานควบคู่กันไปนี่เป็นบทสัมภาษณ์ตั้งแต่ปี2555 ตอนนั้นญ่ายังพูดได้ 4 ภาษาอยู่ ตอนนี้เพิ่มมาอีก 1 ภาษาคือภาษาสเปนที่เรียนที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬฯ ตอนนี้เลยรวมเป็น 5 ภาษา ชอบอ่านบทสัมภาษณ์เก่าเพราะมันเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีว่าไม่ใช่แค่คำพูดที่สวยหรูให้ดูดี แต่เป็นคำพูดที่พูดจริงและทำจริงจนประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้...................บทสัมภาษณ์จากหนักสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ http://m.posttoday.com/ent/165373ถึงจะคิวแน่นรัดตัว ทั้งงานโฆษณา และงานแสดง แต่สาวรักเรียนอย่าง ญาญ่า-อุรัสยา สเปอร์บันด์ นิสิตสาวคณะอักษรศาสตร์ (ภาคอินเตอร์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ไม่ทิ้งการเรียน แถมยังตั้งกฎเหล็กกับตัวเองว่า จะต้องรักษาระดับการเรียนของตัวเองไม่ให้ต่ำกว่า 3.00 ให้ได้ ขณะเดียวกันเธอยังต้องพยายามจัดสรรตารางเรียนให้ลงตัว ไม่ชนกับงาน เพื่อให้ขาดเรียนน้อยที่สุดนางเอกสุดฮอต เล่าว่า สาเหตุที่เลือกเรียนคณะอักษรศาสตร์ เพราะเป็นคนรักการอ่าน ชอบอ่านหนังสือ จึงคิดว่าเรียนคณะนี้น่าจะเหมาะ และด้วยความที่สามารถพูดได้ถึง 4 ภาษา นั่นคือ ไทย อังกฤษ นอร์เวย์ และฝรั่งเศส ทำให้สามารถเลือกอ่านหนังสือได้หลากหลาย ยิ่งเรื่องของตัวหลักสูตรที่เป็นภาษาอังกฤษด้วยนั้นยิ่งไม่เป็นปัญหา ติดตรงที่ด้วยหน้าที่การงานที่ไหลมาเทมา เลยทำให้ทุกวันนี้ สาวญาญ่าไม่ค่อยได้สวมบทหนอนหนังสือ เพราะเวลาส่วนใหญ่ต้องเอามาอ่านบทแทน“ช่วงนี้เรียนและทำงานหนักมากค่ะ เลยต้องพยายามแบ่งเวลาให้ได้ เพราะเวลาที่ทำงานหนูก็ทำงานแบบจริงๆ จะหาเวลาอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนก็ยากมาก เลยต้องอ่านเก็บๆ เอาเวลาที่อยู่บนรถ หรือไม่ก็ต้องหยิบมาอ่านก่อนนอน เพราะเป็นช่วงเวลาที่หนูรู้สึกว่าอ่านแล้วจำได้ แต่ถ้าให้หนูตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือตอนเช้าๆ นี่ไม่ได้เลยค่ะ”สำหรับเทคนิคในการเรียนของญาญ่า คือ นอกจากจะพยามยามไม่ขาดเรียน หรือขาดเรียนให้น้อยที่สุดแล้ว ญาญ่ายังเลือกใช้วิธีการทำโน้ตย่อเพื่อช่วยในการจำ ทำให้สามารถจำเฉพาะคีย์เวิร์ดสำคัญๆ ในวิชาต่างๆ “หนูอาจจะเรียนไม่จบ 4 ปี เพราะไม่ได้ลงเรียนในแต่ละเทอมเยอะ แต่ก็จะพยายามไม่ให้เกิน 5 ปี หนูคิดว่าหนูไม่อยากลงเรียนแน่นมาก แล้วก็ไม่มีเวลาไปเข้าเรียน เพราะด้วยงานของหนูตอนนี้ ดังนั้นหนูเลยเลือกค่อยๆ ก้าวไปดีกว่า ส่วนตัวเองหนูก็ค่อนข้างซีเรียสเรื่องผลการเรียนไม่อยากให้ต่ำกว่า 3.00 เลยต้องพยายามเข้าเรียน ทำโน้ตย่อแล้วท่องออกมาดังๆ จะได้จำได้”คำให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ยิ่งทำให้รุ้ว่า นางเอกคนนี้ทั้งเรียนและทำงานหนักมาก !! “โล่งอกมากเลยค่ะ ดีใจได้รับปริญญาเป็นที่เรียบร้อย น้ำตาจะไหล เกรดเกิน 3 ค่ะ อีกนิดเดียวก็จะได้เกียรตินิยม กว่าจะจบมาได้ ค่อนข้างหนักมาก ๆ เหมือนกัน แต่ก็ผ่านไปด้วยดี ไม่คิดเหมือนกันว่าจะจบ (หัวเราะ) แต่ก็ทำได้ ในช่วง 7 วันช่วงที่เรียน 4 ปีหนูถ่ายละคร 2 เรื่องตลอดเวลา” “แค่นั้นก็ 7 วัน แล้วต้องมาเรียนด้วย ก็ต้องแบบว่ากระโดดไปกระโดดมาระหว่างกองกับมหาวิทยาลัยก็เหนื่อยค่ะ เอาการบ้านไปทำที่กอง ไม่มีชีวิตนอกจากงานกับเรียนเลย ถ้าว่างไม่อ่านบทก็ทำการบ้าน หนูว่าถ้าใครที่เข้ามาในรั้วจุฬาฯ จะรู้ว่ามันเป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง เกริ่นนำโดย ต้นอ้อในสายฝน > https://pantip.com/topic/36783714
เทคนิคการอ่าหนังสือ ของ "ญาญ่าอุรัสยา" เรียนจบจุฬาฯ ด้วยเกรด 3.00 + !
บทสัมภาษณ์ญาญ่าเกี่ยวกับการเรียนและการทำงาน ว่ามีเทคนิคอย่างไรถึงทำให้ทั้งเรียนและทำงานควบคู่กันไปได้เป็นอย่างดี น้องๆที่กำลังศึกษาอยู่ลองนำเทคนิคพี่ญาญ่าไปใช้ได้เพราะตัวญ่าเองได้พิสูจน์แล้วว่าได้ผลเป็นอย่างดีประสบความสำเร็จทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงานควบคู่กันไป
นี่เป็นบทสัมภาษณ์ตั้งแต่ปี2555 ตอนนั้นญ่ายังพูดได้ 4 ภาษาอยู่ ตอนนี้เพิ่มมาอีก 1 ภาษาคือภาษาสเปนที่เรียนที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬฯ ตอนนี้เลยรวมเป็น 5 ภาษา ชอบอ่านบทสัมภาษณ์เก่าเพราะมันเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีว่าไม่ใช่แค่คำพูดที่สวยหรูให้ดูดี แต่เป็นคำพูดที่พูดจริงและทำจริงจนประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้
...................
บทสัมภาษณ์จากหนักสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ http://m.posttoday.com/ent/165373
ถึงจะคิวแน่นรัดตัว ทั้งงานโฆษณา และงานแสดง แต่สาวรักเรียนอย่าง ญาญ่า-อุรัสยา สเปอร์บันด์ นิสิตสาวคณะอักษรศาสตร์ (ภาคอินเตอร์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ไม่ทิ้งการเรียน แถมยังตั้งกฎเหล็กกับตัวเองว่า จะต้องรักษาระดับการเรียนของตัวเองไม่ให้ต่ำกว่า 3.00 ให้ได้ ขณะเดียวกันเธอยังต้องพยายามจัดสรรตารางเรียนให้ลงตัว ไม่ชนกับงาน เพื่อให้ขาดเรียนน้อยที่สุด
นางเอกสุดฮอต เล่าว่า สาเหตุที่เลือกเรียนคณะอักษรศาสตร์ เพราะเป็นคนรักการอ่าน ชอบอ่านหนังสือ จึงคิดว่าเรียนคณะนี้น่าจะเหมาะ และด้วยความที่สามารถพูดได้ถึง 4 ภาษา นั่นคือ ไทย อังกฤษ นอร์เวย์ และฝรั่งเศส ทำให้สามารถเลือกอ่านหนังสือได้หลากหลาย ยิ่งเรื่องของตัวหลักสูตรที่เป็นภาษาอังกฤษด้วยนั้นยิ่งไม่เป็นปัญหา ติดตรงที่ด้วยหน้าที่การงานที่ไหลมาเทมา เลยทำให้ทุกวันนี้ สาวญาญ่าไม่ค่อยได้สวมบทหนอนหนังสือ เพราะเวลาส่วนใหญ่ต้องเอามาอ่านบทแทน
“ช่วงนี้เรียนและทำงานหนักมากค่ะ เลยต้องพยายามแบ่งเวลาให้ได้ เพราะเวลาที่ทำงานหนูก็ทำงานแบบจริงๆ จะหาเวลาอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนก็ยากมาก เลยต้องอ่านเก็บๆ เอาเวลาที่อยู่บนรถ หรือไม่ก็ต้องหยิบมาอ่านก่อนนอน เพราะเป็นช่วงเวลาที่หนูรู้สึกว่าอ่านแล้วจำได้ แต่ถ้าให้หนูตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือตอนเช้าๆ นี่ไม่ได้เลยค่ะ”
สำหรับเทคนิคในการเรียนของญาญ่า คือ นอกจากจะพยามยามไม่ขาดเรียน หรือขาดเรียนให้น้อยที่สุดแล้ว ญาญ่ายังเลือกใช้วิธีการทำโน้ตย่อเพื่อช่วยในการจำ ทำให้สามารถจำเฉพาะคีย์เวิร์ดสำคัญๆ ในวิชาต่างๆ “หนูอาจจะเรียนไม่จบ 4 ปี เพราะไม่ได้ลงเรียนในแต่ละเทอมเยอะ แต่ก็จะพยายามไม่ให้เกิน 5 ปี หนูคิดว่าหนูไม่อยากลงเรียนแน่นมาก แล้วก็ไม่มีเวลาไปเข้าเรียน เพราะด้วยงานของหนูตอนนี้ ดังนั้นหนูเลยเลือกค่อยๆ ก้าวไปดีกว่า ส่วนตัวเองหนูก็ค่อนข้างซีเรียสเรื่องผลการเรียนไม่อยากให้ต่ำกว่า 3.00 เลยต้องพยายามเข้าเรียน ทำโน้ตย่อแล้วท่องออกมาดังๆ จะได้จำได้”
คำให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
ยิ่งทำให้รุ้ว่า นางเอกคนนี้ทั้งเรียนและทำงานหนักมาก !!
“โล่งอกมากเลยค่ะ ดีใจได้รับปริญญาเป็นที่เรียบร้อย น้ำตาจะไหล เกรดเกิน 3 ค่ะ อีกนิดเดียวก็จะได้เกียรตินิยม กว่าจะจบมาได้ ค่อนข้างหนักมาก ๆ เหมือนกัน แต่ก็ผ่านไปด้วยดี ไม่คิดเหมือนกันว่าจะจบ (หัวเราะ) แต่ก็ทำได้ ในช่วง 7 วันช่วงที่เรียน 4 ปีหนูถ่ายละคร 2 เรื่องตลอดเวลา”
“แค่นั้นก็ 7 วัน แล้วต้องมาเรียนด้วย ก็ต้องแบบว่ากระโดดไปกระโดดมาระหว่างกองกับมหาวิทยาลัยก็เหนื่อยค่ะ เอาการบ้านไปทำที่กอง ไม่มีชีวิตนอกจากงานกับเรียนเลย ถ้าว่างไม่อ่านบทก็ทำการบ้าน หนูว่าถ้าใครที่เข้ามาในรั้วจุฬาฯ จะรู้ว่ามันเป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง
เกริ่นนำโดย ต้นอ้อในสายฝน > https://pantip.com/topic/36783714
ปฏิกิริยาของคุณคืออะไร?