โฆษกอัยการห่วงวิจารณ์คดี‘ครูจอมทรัพย์’ละเมิดอำนาจศาล ให้รอคำตัดสิน-อย่าเพิ่งเรียกว่าแพะ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ม.ค. ที่ห้องพิพิธภัณฑ์ไทย สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกฯ ร่วมกันแถลงชี้แจงกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งรับคำร้องขอรื้อฟื้นคดีของนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครูที่ต้องโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำคุก 3 ปี 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญาคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดให้ความช่วยเหลือตามสมควรฯ เมื่อคืนวันที่ 11 มี.ค.2548 ที่ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม ว่า ขณะนี้คำพิพากษาศาลฎีกายังมีผลที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีผลผูกพันตัวจำเลย ฉะนั้นการวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อมวลชนและสื่อในโซเชียลเน็ตเวิร์กต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง เพราะขณะนี้คดีในส่วนที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้ศาลจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น ดำเนินการสืบพยานตามคำร้องของนางจอมทรัพย์ ผู้ร้อง และอัยการผู้คัดค้าน อยู่ในกระบวนการพิจารณาชั้นศาลร.ท.สมนึก กล่าวอีกว่า เมื่อศาลจังหวัดนครพนมดำเนินการสืบพยานฝ่ายผู้ร้อง และฝ่ายผู้คัดค้านเสร็จสิ้นแล้ว ต้องส่งสำนวนการสืบพยานให้ศาลฎีกามีคำสั่งว่า จะยกคำร้องขอรื้อฟื้นคดีหรือจะยกคำพิพากษาเดิมของศาลฎีกาที่ลงโทษจำคุกไว้ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดี พ.ศ.2526 มาตรา 23 ดังนั้น เมื่อคดียังอยู่ในระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงไม่อาจวิพากษ์วิจารณ์ เพราะอาจเป็นการก้าวล่วงและละเมิดการพิจารณาคดีของศาลได้ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกฯ กล่าวว่า ประเด็นที่อยากเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน คือคำพิพากษาศาลฎีกา ยังมีผลผูกพันและชอบด้วยกฎหมาย และกระบวนการรื้อฟื้นคดียังอยู่ระหว่างการดำเนินการของศาล ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ก้าวล่วง และยังไม่ควรเรียกนางจอมทรัพย์ว่าเป็นแพะในคดี รวมทั้งยังไม่มีสิทธิได้รับค่าเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา เพราะต้องรอการสืบพยานและคำพิพากษาในส่วนของการขอรื้อฟื้นคดีของศาลฎีกาให้ถึงที่สุดเสียก่อน คดีนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานได้ละเอียดครบถ้วน สมบูรณ์ และดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายแล้วทั้งนี้ กระบวนการยุติธรรมทั้งระบบต้องร่วมกันตรวจสอบ เพื่อเป็นหลักประกันในสิทธิเสรีภาพของประชาชน กระบวนการรื้อฟื้นคดีจึงมีขึ้นเพื่อร่วมกันค้นหาความจริง แต่ควรคำนึงว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าคดีจะออกมาเป็นเช่นไร ขอให้รอกระบวนการพิจารณาของศาลให้เสร็จสิ้นก่อนในส่วนของการสืบพยานการรื้อฟื้นคดีของนางจอมทรัพย์ ผู้ร้องนั้น ทางอัยการสามารถนำพยานเข้าสืบหักล้าง และซักค้านพยานของฝ่ายผู้ร้องได้ ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล 1045

กรกฎาคม 29, 2023 - 19:00
 0  5
โฆษกอัยการห่วงวิจารณ์คดี‘ครูจอมทรัพย์’ละเมิดอำนาจศาล ให้รอคำตัดสิน-อย่าเพิ่งเรียกว่าแพะ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ม.ค. ที่ห้องพิพิธภัณฑ์ไทย สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกฯ ร่วมกันแถลงชี้แจงกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งรับคำร้องขอรื้อฟื้นคดีของนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครูที่ต้องโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำคุก 3 ปี 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญาคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดให้ความช่วยเหลือตามสมควรฯ เมื่อคืนวันที่ 11 มี.ค.2548 ที่ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม ว่า ขณะนี้คำพิพากษาศาลฎีกายังมีผลที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีผลผูกพันตัวจำเลย ฉะนั้นการวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อมวลชนและสื่อในโซเชียลเน็ตเวิร์กต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง เพราะขณะนี้คดีในส่วนที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้ศาลจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น ดำเนินการสืบพยานตามคำร้องของนางจอมทรัพย์ ผู้ร้อง และอัยการผู้คัดค้าน อยู่ในกระบวนการพิจารณาชั้นศาล

ร.ท.สมนึก กล่าวอีกว่า เมื่อศาลจังหวัดนครพนมดำเนินการสืบพยานฝ่ายผู้ร้อง และฝ่ายผู้คัดค้านเสร็จสิ้นแล้ว ต้องส่งสำนวนการสืบพยานให้ศาลฎีกามีคำสั่งว่า จะยกคำร้องขอรื้อฟื้นคดีหรือจะยกคำพิพากษาเดิมของศาลฎีกาที่ลงโทษจำคุกไว้ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดี พ.ศ.2526 มาตรา 23 ดังนั้น เมื่อคดียังอยู่ในระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงไม่อาจวิพากษ์วิจารณ์ เพราะอาจเป็นการก้าวล่วงและละเมิดการพิจารณาคดีของศาลได้

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกฯ กล่าวว่า ประเด็นที่อยากเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน คือคำพิพากษาศาลฎีกา ยังมีผลผูกพันและชอบด้วยกฎหมาย และกระบวนการรื้อฟื้นคดียังอยู่ระหว่างการดำเนินการของศาล ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ก้าวล่วง และยังไม่ควรเรียกนางจอมทรัพย์ว่าเป็นแพะในคดี รวมทั้งยังไม่มีสิทธิได้รับค่าเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา เพราะต้องรอการสืบพยานและคำพิพากษาในส่วนของการขอรื้อฟื้นคดีของศาลฎีกาให้ถึงที่สุดเสียก่อน คดีนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานได้ละเอียดครบถ้วน สมบูรณ์ และดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

ทั้งนี้ กระบวนการยุติธรรมทั้งระบบต้องร่วมกันตรวจสอบ เพื่อเป็นหลักประกันในสิทธิเสรีภาพของประชาชน กระบวนการรื้อฟื้นคดีจึงมีขึ้นเพื่อร่วมกันค้นหาความจริง แต่ควรคำนึงว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าคดีจะออกมาเป็นเช่นไร ขอให้รอกระบวนการพิจารณาของศาลให้เสร็จสิ้นก่อน

ในส่วนของการสืบพยานการรื้อฟื้นคดีของนางจอมทรัพย์ ผู้ร้องนั้น ทางอัยการสามารถนำพยานเข้าสืบหักล้าง และซักค้านพยานของฝ่ายผู้ร้องได้ ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
1045

ปฏิกิริยาของคุณคืออะไร?

like

dislike

love

funny

angry

sad

wow